เจ้าของแมวมีหวังโพสต์ตามหา น้องปลาเก๋า แมวหาย ตั้งแต่เดือนเมษายน หวังหายไปนอกเกาะแบบน้องหมูทะ ตั้งเงินรางวัล 5 หมื่นบาท ผู้ใช้เฟซบุ๊ก May Pitchaya ได้โพสต์ข้อความเฟซบุ๊กตามหาน้องปลาเก๋าแมวลายสลิด ที่หายตัวไปตั้งแต่เดือนเมษายน โดยสาเหตุที่ออกมาตามหาแมวตัวดังกล่าวอีกครั้ง เนื่องจากเห็นข่าวน้องหมูทะแมวหาย แล้วมีหวังอีกครั้ง พร้อมตั้งเงินรางวัล 5 หมื่นบาท
เจ้าของน้องปลาเก๋า เขียนข้อความระบุว่า “เห็นข่าวหมูทะ แมวที่หายจากหาดใหญ่ ไปกรุงเทพฯ
แล้วอยากจะขอโอกาสตามหาปลาเก๋าอีกสักครั้งค่ะ ตอนนี้เก๋าอาจจะอยู่นอกเกาะได้จริงๆเหมือนหมูทะ แมวชื่อปลาเก๋า แมวไทย เพศผู้ ลายสลิดเทา ทำหมันแล้ว อายุประมาณ 3ปี น้ำหนัก 6.7 กก (ตอนที่หาย) หายไปจาก อ.เกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี เมื่อวันที่ 18 เมษายน 2565 บริเวณหาดริ้น
แมวชื่อปลาเก๋า ตอนหายไม่ได้ใส่ปลอกคอ เพราะปลอกคอหลุดหายก่อนจะหายตัวไป เก๋าเป็นแมวเรียบร้อย อ่อนหวาน ไม่ก้าวร้าว อุ้มง่ายค่ะ (กลัวจะมีคนอุ้มออกจากรร.ไปเลี้ยงต่อ) เก๋าตาสีฟ้า โครงใหญ่ ตัวใหญ่ รู้ชื่อตัวเอง ชอบคุยตอบ เก๋าเป็นแมวขี้กลัว ขี้ตกใจสะดุ้งง่ายเมื่อเสียงดัง หากเจอให้เรียกชื่อเค้าแบบธรรมดา ไม่วิ่งตามก็จะเข้ามา
ท่านใดเอ็นดู รับเก๋าไปดูแล หรือติดรถใครไป ขอความกรุณาส่งปลาเก๋าคืนให้เราด้วยเถอะนะคะ
หากพบเจอปลาเก๋า กรุณาติดต่อกลับที่เบอร์ 086 789 9541 / 077 375 055 ได้ตลอด 24ชม. มีค่าตอบแทนให้เป็นเงิน 50,000 บาทค่ะ ขอบคุณ ที่ช่วยแชร์และช่วยติดตามหาค่ะ”
จนต่อมาวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมาทั้ง หมอปลา และ ภรรยา น้ำฟ้า รภัสสรณ์ ได้ทำพีธีขอขมาหลวงปู่แสง โดยมี ทิศไพรวัลย์ เป็นคนกล่าวนำต่อหน้ารูปหลวงปู่ รวมถึงยังมีประเด็นนักข่าวจากหลายสำนักถูกตั้งข้อสงสัยถึงพฤติกรรมที่แสดงออกในวันบุกวัด กระทั่งมีการร้องเรียนจนต้นสังกัดต้องประกาศพักงานผู้สื่อข่าวสาวรายหนึ่ง แบบไม่มีกำหนด เนื่องจากแสดงพฤติกรรมไม่เหมาะสมด้วยเช่นเดียวกัน
น้อมนำคำสอนขององค์พระสุทธเจ้า เนื่องในวันวิสาขบูชา 2565 ซึ่งเป็นวันพระใหญ่ และวันสำคัญของโลก จึงจะขอแนะนำ หลักธรรมสำคัญ ประจำวันวิสาขบูชาเกี่ยวกับเรื่องความเมตา และสันติภาพให้ปฏิบัติตามในชีวิตประจำวัน โดยมีหลักธรรมสำคัญต่าง ๆ ดังนี้
สรุปหลักธรรมสำคัญใน วันวิสาขบูชา คือรื่องของความกตัญญูรุ้คุณ กตเวที ความไม่ประมาทในชีวิต และการตระหนักถึงแก่นแท้ของความ ทุกข์ เหตุแห่งทุกข์ นิโรธ การดับทุกข์ และมรรค แนวทางการดับทุกข์ ข้อปฏิบัติต่าง ๆ เพื่อการพ้นทุกข์ นั่นเอง
พระนั่ง KFC เล่นเน็ตสองคืน สุดท้ายร้านทนไม่ไหว เรียกตำรวจ
ตำรวจเชิญพระออกจากร้านอาหาร หลัง พระนั่ง KFC เล่นเน็ตสองคืนติด จนทางร้านทนไม่ไหว มองว่าไม่เหมาะสม จึงโทรแจ้งตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.บางเขน ได้รับรายงานเมื่อช่วงเวลา 2.00 น. ของวันที่ 5 ก.ย. ว่าพบชายคล้ายพระนั่ง KFC สาขาปั๊มน้ำมันเชลล์ ถนนพหลโยธิน แขวงอนุสาวรีย์ เขต โดยระหว่างนั่งในร้านก็ได้นั่งเปิดโน๊ตบุ๊กเล่นอินเตอร์เน็ต ทางร้านมองว่าไม่เหมาะสมจึงโทรแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ
จากการตรวจสอบพบว่าพระรูปดังกล่าวเป็นชาวมอญ เกิดปี พ.ศ. 2545 แต่ไม่พบเอกสารการบวชเป็นพระภิกษุแต่อย่างใด โดยพระรูปนี้เล่าว่า บวชเณรที่วัดแห่งหนึ่งใน อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี และเดินทางมายังกรุงเทพเมื่อ 4 วันก่อนเพื่อรักษาอาการภูมิแพ้ ที่โรงพยาบาลแห่งหนึ่งย่านพระราม 2
ตอนนี้พยายามหาทางกลับบ้าน จ.กาญจนบุรี แต่เงินไม่พอ จึงเข้าไปแวะนั่งในร้าน KFC เพราะคิดว่าเป็นสถานที่ปลอดภัย เนื่องจากเปิดให้บริการ 24 ชั่วโมง กลัวว่าหากเดินทางในช่วงกลางคืนอาจจะเป็นอันตรายกับตนได้
ขณะที่พนักงานร้าน KFC ได้ให้ปากคำว่า ชายห่มผ้าเหลืองคล้ายพระนั่ง KFC และใช้โน้ตบุ๊กดูข้อมูลบนโลกออนไลน์ ตั้งแต่ช่วงเวลา 22.00 น. มาเป็นเวลา 2 คืนแล้ว เห็นพฤติกรรมของพระรูปนี้แล้ว รู้สึกตะขิดตะขวงใจ มองว่าไม่เหมาะสม ส่งผลให้ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการรู้สึกหมดศรัทธา และได้แจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจ เบื้องต้นตำรวจได้เชิญพระนั่ง KFC ออกจากร้าน และนำตัวส่งสถานีขนส่งสายใต้ เพื่อช่วยให้เดินทางกลับ จ.กาญจนบุรี ต่อไป
ขณะที่ นายแพทย์ สมฤทธิ์ เวียงสมุทร นายแพทย์ชํานาญการพิเศษ โรงพยาบาลหัวตะพาน จ. อํานาจเจริญ ซึ่งให้การดูแลรักษาอาการอาพาธหลวงปู่ใกล้ชิด กล่าวว่า ในช่วงเริ่มต้นที่เริ่มเข้าไปดูแลอาการ อาพาธของหลวงปู่ มีอาการติดเชื้อที่ปอด ปอดอักเสบ), อาการปวดหลังร้าวลงขา ร่วมกับขาทั้ง 2 ข้างอ่อนแรง ซึ่งเกิดจากสาเหตุกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท และมีอาการของโรคเก๊าท์ร่วมด้วย การให้การรักษาส่วนใหญ่ แพทย์จะเดินทางไปที่วัดที่หลวงปู่แสงจําพรรษา การให้การรักษา ณ โรงพยาบาลเกิดขึ้นน้อยมาก เพราะหลวงปู่ ไม่ประสงค์เข้ารับการรักษาอาการอาพาธที่โรงพยาบาลและไม่ชอบฉันท์โอสถยา โดยช่วงกลางปี 2561 พระ อุปัฏฐากโทรปรึกษาถึงอาการอาพาธของหลวงปู่ที่มีอาการผิดปกติ มีพฤติกรรมแปลกไป คือมีการถูกเนื้อต้องตัว ลูกศิษย์ที่เข้าไปกราบ ซึ่งได้ให้คําปรึกษาทางการแพทย์ว่า เนื่องจากอายุมากอาจมีภาวะสมองฝ่อได้ตามวัย ซึ่ง หากบริเวณที่ฝ่อเกี่ยวข้องกับส่วนที่ทําหน้าที่ควบคุมอารมณ์และพฤติกรรม อาจส่งผลทําให้การแสดงออกทาง พฤติกรรมและอารมณ์มีความผิดปกติได้ โดยที่ความทรงจํายังเป็นปกติอยู่ เพราะสมองส่วนที่ทํางานนั้นคนละ ส่วนกัน ต่อมาทางคณะศิษย์ได้นิมนต์ไปโรงพยาบาลเพื่อเข้าเอกซเรย์คอมพิวเตอร์สมอง ที่โรงพยาบาลกรุงเทพ เชียงใหม่ ทําให้ทราบว่ามีภาวะของอัลไซเมอร์
Credit : ที่เที่ยวญี่ปุ่น | จัดอันดับต่างๆ | รีวิวของแบรนเนม | วิธีการลงทุนต่าง